“แพรรี่” ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง…ไม่ได้ใช้เพื่อคนอื่น เปิดหมดใจ! สู่ลุคใหม่ที่ปังยิ่งกว่าเดิม

สร้างสีสันให้กับชาวโซเชียลฯ เป็นอย่างมาก สำหรับอดีตพระนักเทศน์ชื่อดัง ไพรวัลย์ วรรณบุตร ที่ตัดสินใจอัปเลเวลแต่งหญิงแบบเต็มขั้น พร้อมตั้งชื่อใหม่ให้ตัวเองว่า แพรรี่ จนกลายเป็นที่พูดถึงในหมู่แฟนคลับและอีกหลายคนที่ติดตามข่าว

ล่าสุด แพรรี่ หรือ ไพวัลย์ ได้มีโอกาสออกมาเปิดใจถึงประเด็นร้อนดังกล่าวและเรื่องราวที่ถูกตั้งข้อสงสัย กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23

  • “ไพรวัลย์” เปลี่ยนลุคสุดปัง แต่งชุดไทยขายน้ำพริก คอนเซ็ปต์หัวใจถวายวัด

ทำไมถึงเปลี่ยนชื่อจาก ไพรวัลย์ เป็น แพรรี่ ?
“คือหลังๆ เอฟซีเริ่มเห็นแนวเรา สไตล์เราแบบนี้ก็ไม่มีใครอยากเรียกเราไพรวัลย์ เพราะว่ามันดูไม่เป็นผู้หญิง (หัวเราะ) คนก็ตั้งให้เยอะมาก ก่อนหน้านี้ก็จะมีชื่อ แพรหวาน อะไรแบบนี้ แต่จะชอบชื่อล่าสุดที่เดี๋ยวนี้ไปไหนคนจะไม่เรียกไพรวัลย์แล้ว ก็จะเรียกว่าแพรรี่ จริงๆ ได้หมดไม่ติดเลย (หัวเราะ) อะไรก็ได้ที่เอฟซีเอ็นดูเรา เราก็ยินดีให้เขาเรียก”

เรียกว่าตอนนี้แกรนด์โอเพนนิ่งเต็มตัวแล้วหรือยัง ?
“จริงๆ ถ้าแกรนด์นัยยะที่เราจะแต่งแบบนี้ก็ไม่ติดก็ได้ หรือว่าวันดีคืนดีจะแต่งผู้ชายก็ได้ ไม่ใช่ว่าจะแต่งหญิง 24 ชั่วโมง หรือว่าหญิงทุกครั้งเวลาที่ออกงานก็ไม่ใช่ แกรนด์ในความหมายของหนูคือใส่ได้หมด หนูไม่ติด อย่างเวลาจะทำงาน จะออกรายการลูกค้าก็จะรีเควสให้แต่งแบบนี้นะ ถ้าแต่งว่าแมนมาก็ไม่เอา (หัวเราะ) ลูกค้าก็จะรีเควสมา”

ไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่)

เงาของความเป็นแพรรี่ เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไร ?
“มันไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร แต่ในความรู้สึกหนูมันเป็นในเรื่องของไทม์มิ่งมากกว่า แต่ด้วยความที่สมัยตอนเรียนเราชอบกิจกรรม ครูก็จะชอบจับแต่งหญิงแบบนี้เป็นผู้ชายคนเดียวที่ไปอยู่หน้ากลองยาวแล้วก็รำกับเด็กผู้หญิง”

ตอนบวชล่ะ มีความเป็นผู้หญิงอยู่ในตัวไหม ?
“ตอนบวชแทบไม่มีเลย เรื่องที่แบบว่าจะมาสนใจในแบบผู้หญิงคือไม่มีเลย อันนี้พูดในเรื่องความสัจจริงคือไม่มีเลย เพราะเราเข้าไปบวชปุ๊บ คือเป็นเด็กที่เข้าไปเรียนจริงๆ และเราก็อยู่ในผ้าเหลืองมาตลอด 18 ปี ในความรู้สึกหรือว่ารสนิยมในการแต่งผู้หญิงมันไม่มี ณ ตอนนั้น”

ไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่)

พอสึกออกมา เป็นเพราะกองเชียร์ หรือตัวเราเองที่อยากปลดปล่อย?
“เรารู้สึกอยากเป็นตัวเองหรือว่าอยากเป็นอะไรที่เราแฮปปี้ และเรามีความสุข อยากจะลองอยากจะเป็นในแบบที่เราเป็น ในก่อนเวลาที่เราจะบวช ย้อนสมัยเราเป็นประถม อยากลอง ตัวเองอยากเป็นคนสนุก ก่อนหน้านี้เขามีคังคุไบ เราก็อยากแต่งบ้างจะไม่ได้เหรอ”

ก่อนที่จะตัดสินใจเปิดตัว พร้อมรับมือกับคนที่ชังเรายังไง?
“คิดง่ายๆ เลยตอนนี้ เราใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น คิดแค่นี้เลยจบ ทุกวันนี้แฮปปี้กับครอบครัว ทำมาหาเลี้ยงครอบครัว และก็ทำมาหากินโดยสุจริต สัมมาอาชีพ เลยไม่รู้สึกว่าการแต่งตัวแบบนี้ต้องอับอายใครก่อน ไม่มีความคิดนี้อยู่ในความรู้สึกเลย ทำไมแต่งตัวแบบนี้แล้วต้องอาย ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันไม่ต้องอายใคร ทุกวันนี้ดิฉันมีงานมีเงิน อยู่กับครอบครัวมีความสุข พ่อแม่แฮปปี้ แม่ดิฉันเห็นดิฉันใส่ชุดนี้แม่ดิฉันยิ้ม แม่ฉันมีความสุขก็จบแล้ว”