“เชียร์” สารภาพตรงๆ เหวอไม่แพ้กัน นาที “ซี ศิวัฒน์” พูดเรื่องเคยจีบในอดีต

กลายเป็นคลิปการสัมภาษณ์ครั้งประวัติศาสตร์ทำให้แฟนละครต่างก็หายคิดถึงและมีความสุขอย่างที่สุด สำหรับการรวมตัวในรอบ 19 ปี ของกลุ่มนักแสดง เบญจา คีตา ความรัก ซึ่ง ณ ขณะนี้มียอดผู้กดเข้าไปชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 วัน

ล่าสุดหนึ่งในนางเอกของเรื่อง อย่าง เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ก็ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนในงานบวงสรวงละคร กระสือลำซิ่ง ช่อง 8 โดยเจ้าตัวยอมรับว่าโมเมนต์ที่ทำให้รู้สึกเหวอและเซอร์ไพรส์หนักมาก!! ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนั้นก็คือ ตอนที่ ซี ศิวัฒน์ ยอมรับว่าเคยคิดที่จะจีบตนเอง ซึ่งเธอไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะลงดีเทลลึกขนาดนี้

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ณ ปัจจุบันทุกคนก็เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่สามารถนำมาพูดคุยได้อย่างสนุกสนานในกลุ่มเพื่อน…

  • “ซี ศิวัฒน์” เผยความลับ เคยจีบ “เชียร์ ฑิฆัมพร” งานนี้ “เฟี้ยว์ฟ้าว์” ขอร่วมวงแฉทันที

เทปรวมนักแสดง เบญจา คีตา ความรัก ออกอากาศแล้ว เป็นยังไงบ้าง ?
“โห…ตายแล้ว ดิฉันร้องเหมือนลูกสุนัขเลยค่ะ คือมันเป็นความสุขนะ เป็นความอิ่มเอมจิตใจที่เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับพี่ทุกคน นี่แหละค่ะมันความคิดถึง มันคือสิ่งนี้แหละพอเราไม่ได้เจอกันนาน 19 ปีผ่านไป มันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เชียร์ยังพูดกับพี่ๆ เลยนะคะว่า มันไม่ได้เป็นแค่การที่นักแสดงมารวมตัวกัน แต่มันเป็นการที่พี่น้องได้กลับมาเจอกันมากกว่า มันเป็นความอบอุ่นเหมือนกับตอนที่เราได้เจอเพื่อนสมัยประถม คือต่อให้ไม่เจอกันกี่ชาติเราก็ยังคุยกันได้แบบสนิทใจ มันเลยได้เห็นถึงความพรั่งพรูอะไรบางอย่าง ได้เห็นถึงมุมมองที่แต่ละคนมีเรื่องราวในแบบของตัวเอง ได้เปิดกล่องความทรงจำอีกครั้ง”

เรื่องของ ซี ศิวัฒน์ ก็โดนแซว ตัวเราเองเขินไหม ?
“ไปดูคลิปเอาเอง (หัวเราะ) มันก็เป็นเรื่องที่พูดกันได้ เชียร์มองว่าทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นในวันนั้น วันนี้มันคือ 100 เปอร์เซ็นต์ของความเป็นพี่เป็นน้องจริงๆ แต่ ณ ตอนนั้นใครจะรู้สึกต่อกันยังไงมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงอ่ะเนอะ แต่เราก็มองมันเป็นเรื่องน่ารักอ่ะ เป็นเรื่องน่ารักจริงๆ”

หลายคนตกใจเพราะไม่เคยรู้มาก่อน ?
“ดิฉันก็ตกใจ ดิฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะพูดกันถึงขนาดนี้ เขาเล่าละเอียดมาก นั่นแหละ เราก็ตกใจจริงๆ แต่อย่างที่บอก ณ วันนี้เราเหมือนเป็นพี่เป็นน้อง มันกลายเป็นเรื่องแซวกันที่พูดถึงยังไงก็ได้”

แสดงว่าเราฟังแล้วก็ยิ้มๆ ?
“ยิ้มๆ แต่ดิฉันก็จะโดนกับประโยคนี้เสมอว่า ผู้หญิงในเรื่องสวยๆ มีตั้งเยอะ (หัวเราะ) ทำไม ทำไม ผมสั้น ตาดำๆ”

ถามถึงละคร กระสือลำซิ่ง ทำไมถึงตัดสินใจเบนเข็มมาเป็นผู้จัดละคร ?
“เป็นความตั้งใจหนึ่งสำหรับการทำงานอยู่แล้วค่ะ คือทุกการทำงานเชียร์เชื่อว่าทุกคนก็อยากพัฒนาตัวเอง และการทำงานเบื้องหลังก็เป็นสเต็ปที่เชียร์สนใจ ทีนี้พอเชียร์มีโอกาสประจวบเหมาะ บวกกับบังเอิญได้มาทำละครให้กับช่อง 8 เชียร์ก็เลยโอเค ขอลุยกับบทบาทการเป็นผู้จัดละครดู ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างสรรค์งานใหม่ๆ ในแบบที่เป็นสไตล์เชียร์”

ประสบการณ์การเป็นผู้จัดละครครั้งแรก เป็นยังไงบ้าง ?
“เรียกว่าเป็นการท้าทายตัวเองละกันค่ะ คือพอเราอยากจะใส่อะไรที่มันแตกต่าง มันก็เลยกลายเป็นว่า สิ่งนั้นก็อยากทำ สิ่งนี้ก็อยากทำ ผีก็มา พีเรียดก็มี คอนเสิร์ตก็มี ซีจีอีก นักแสดงก็เยอะ มันก็เลยเป็นความท้าทายของเราในการที่จะทำงานกลมกล่อมให้หลากหลาย ซึ่งเราก็มีหน้าที่ที่จะต้องเรียนรู้ แต่ถามว่ามันมีช่วงตะกุกตะกักบ้างไหม เอ่อ…คือเชียร์ค่อนข้างโชคดีที่ได้ทีมงานดี และทุกคนก็พร้อมที่จะซัพพอร์ตช่วยเหลือ รวมถึงนักแสดง นักแสดงทุกคนมีของและทำให้การทำงานของเราราบรื่นไปหมด ขนาดเชียร์ดูเชียร์ยังมีความสุขเลยค่ะ”

การดูแลนักแสดงที่ค่อนข้างเยอะแบบนี้ ถือเป็นเรื่องยากไหม ?
“ต้องบอกแบบนี้ค่ะ คือเชียร์พยายามดูแลทุกคนให้ดีที่สุด แต่พอหน้างานเชียร์ต้องเล่นเอง เชียร์ควบ 2 หน้าที่ เชียร์ก็เลยอาจจะต้องอาศัยพึ่งพาทีมงานในการช่วยเหลือ และอย่างที่บอกนักแสดงทุกคนในกองน่ารักมาก ทุกคนทำงานด้วยใจจริงๆ ทุกอย่างที่ทำมันมีแต่ความสนุก จนทำให้เชียร์รู้สึกว่าเป็นความโชคดีที่ถึงแม้การทำงานของละครเรื่องนี้จะเป็นอะไรที่ยากมาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ก็อยากให้ทุกคนรอชมนะคะ”

ตัวเราเองกังวลเรื่องของซีจีบ้างไหม ?
“กังวลนะคะ กังวลมาก แต่อย่างที่บอกเชียร์ค่อนข้างได้ทีมที่ดีจริงๆ และทุกคนก็ให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ซึ่งมันก็เป็นประสบการณ์ของเชียร์นะคะในการเรียนรู้ เพราะปกติเวลาเชียร์ทำงานหน้าฉาก แสดงหน้าฉากเสร็จก็คือเสร็จ แต่พอเชียร์ต้องมาลุยเบื้องหลัง เชียร์ก็ได้เรียนรู้จากสิ่งที่ทีมงานสอนเยอะเหมือนกัน”

การเป็นนักแสดงกับการเป็นผู้จัดละคร ต่างกันมากไหม ?
“ต่างมากค่ะ ต่างมาก เพราะว่าภาระหน้าที่ต่างๆ ถ้าเป็นนักแสดงเราก็รับผิดชอบแค่บทของเราคนเดียว แต่พอเราเป็นผู้จัดละคร มันไม่ใช่แค่ตัวเราคนเดียวละ เพราะมันยังมีตรงนั้นตรงนี้อีกเยอะแยะมากมาย ทำหน้าฉากเสร็จก็ต้องไปทำข้างหลังต่อ แต่ก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่สนุกมาก รวมถึงต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เช่นกันที่ทำให้ละครเรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด”

นักแสดงก็เยอะ ซีจีก็เยอะ งบประมาณเป็นยังไงบ้าง ?
“(หัวเราะ) จากใจเลยนะ ก็…ยังมีพออยู่พอกิน คือมันก็เหมือนการบริหารงานในอีกรูปแบบหนึ่ง เพียงแต่เราก็ต้องมีวิธีในการเพิ่มการลดบางอย่างด้วย”

 

เห็นว่าจริงๆ แล้วละครเรื่องนี้ มีชื่อของ แตงโม นิดา ร่วมเล่นด้วย ?
“คือต้องบอกอย่างนี้นะคะ จริงๆ แล้วคาแรคเตอร์หลายๆ ตัวในเรื่องนี้ แม้กระทั่งตัวเชียร์เองนะ เริ่มแรกก็ไม่ใช่เชียร์ แต่ว่าทุกอย่างจังหวะประจวบเหมาะ มันก็เลยกลายเป็นว่าต้องมาเป็นเชียร์ ส่วนในคาแรคเตอร์หนึ่งที่เชียร์นึกถึงพี่โม เชียร์อาจจะไม่ได้เอ่ยละกันนะคะว่าเป็นคาแรคเตอร์ไหนในเรื่องนี้ แต่ว่ามันเป็นความคิดถึง คือจู่ๆ พอเราจะทำงานขึ้นมาสักชิ้นหนึ่ง เชียร์นึกถึงเขา เพราะมันคือความคิดถึงจริงๆ และก็ได้มีการติดต่อพี่เขาไป แต่ในความที่ตอนนั้นอาจจะด้วยความไม่สะดวกหรืออะไรหลายๆ อย่าง เชียร์ก็เลยไม่กล้าตื้ออะไรมาก ก็เป็นอะไรที่เสียดายเหมือนกันค่ะ”

ใจจริงๆ ของเราตอนนั้น ยังรอให้เขาตอบตกลงไหม ?
“ใจเชียร์ เชียร์คิดถึงเขาอยู่แล้ว เชียร์อยากให้เป็นเขาอยู่แล้ว แต่พอเขาเซย์โนมาตอนแรก เราเองก็ไม่แน่ใจว่าอาจจะเพราะคิวด้วยหรือเปล่า หรือว่าเอ๊ะ! อยากเล่นไม่อยากเล่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่เราแค่เกรงใจ คือถ้าสมมติใจลึกๆ เขาอาจจะไม่ได้อยากเล่นบทนี้ เราก็ไม่อยากจะไปตื้อเขา คือการทำงานมันต้องมีหลายบริบท มันมีหลายปัจจัยที่ต้องคิดและตัดสินใจ เพียงแต่เราแค่อยากให้เขารู้ว่าเรานึกถึงเขาก็พอละ ติดต่อไปให้รู้ว่าอยากร่วมงานด้วยนะ”

ในฐานะผู้จัดละครเราก็คิดถึง ?
“ใช่ค่ะ เราก็คิดถึงแหละ มันเหมือนคนที่ไม่ได้เจอกันนาน แต่พอเชียร์มาย้อนนึกก็ตกใจตัวเองเหมือนกันนะคะ ที่จู่ๆ ก็คิดถึงเขา และสำหรับหลายๆ คนที่อยู่ในเรื่องนี้ จริงๆ ก็ผ่านการคิดถึงมาเหมือนกันหมด บางคนก็เป็นเพื่อน บางคนก็เคยร่วมงานกัน คือเชียร์จะพยายามนึกถึงคนที่เชียร์เคยเห็นศักยภาพของเขาว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วพี่โมก็เป็นคนหนึ่งที่เชียร์คิดถึงจริงๆ”

เราเองก็คิดว่าการที่คิดถึงเขาตอนนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ?
“อันนี้พูดตรงๆ นะ เชียร์เองก็แปลกใจเหมือนกัน เพราะว่าเดิมที ณ ตอนนั้นเชียร์แค่รู้สึกว่าเราไม่ได้ร่วมงานกันนานมากแล้ว เชียร์เลยอยากหาโมเมนต์อะไรสักอย่างให้เราได้อยู่ด้วยกันเยอะๆ คือพอเราเติบโตขึ้น เส้นทางชีวิตมันก็พาเราไปทำอะไรในส่วนต่างๆ ของตัวเองโดยที่เราไม่ได้เจอกัน ณ ตอนนั้นเชียร์นึกแค่นี้จริงๆ ว่าอยากทำอะไรที่มีเวลาได้อยู่ด้วยกันเหมือนแต่ก่อน เพราะจุดเริ่มต้นของเราคือเราเติบโตและชีวิตอยู่ในกองละครมาพร้อมๆ กัน ดังนั้นพอนึกย้อนกลับไป เชียร์เองก็ประหลาดใจเหมือนกันที่ตอนนั้นนึกถึงพี่เขา”

ความรักตอนนี้สดชื่นดี ?
“สดชื่นค่ะ สดชื่น ก็เป็นสิ่งดีๆ ที่เราก็รู้สึกว่าดีใจจังที่ยังมีเขาอยู่ (ยิ้ม)”

ดูกลมกล่อมมากขึ้นทุกวัน ?
“ก็ดีค่ะ ก็ดีค่ะ (เขิน) เชียร์มองว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเนอะที่คนสองคนจะเจอกันและพอดีกัน แต่ก็คงต้องดูกันไปนานๆ ค่ะ ซึ่ง ณ วันนี้เชียร์มีความสุขและก็แฮปปี้ดี ส่วนในอนาคตเราก็คงต้องปรับตัวกันไปเรื่อยๆ และก็อยากรักษาไว้ให้นานที่สุด”

ก่อนหน้านี้หลายคนอาจจะมองว่าเราไม่เข้าใจ แต่ด้วยระยะเวลาต่างๆ ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ?
“ไม่ต้องใครมองหรอกค่ะ เพราะขนาดดิฉันยังมองเลยค่ะว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ (หัวเราะ) ก็ต้องบอกว่าเป็นความน่ารักค่ะ คือตัวนิสัยเราอาจจะไม่ได้เข้ากันทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่แรก แต่พอคุณบิ๊กเขามีความน่ารักที่พร้อมจะปรับตัว เขาก็ทำให้เชียร์ได้เรียนรู้และก็พร้อมที่จะปรับตัวไปด้วยกันกับเขาค่ะ”

ใกล้คำว่าชีวิตคู่แล้วหรือยัง ณ เวลานี้ ?
“เอาน่า… ทุกวันนี้ก็ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาที่เหมาะสมก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น (ยิ้ม)”

คุณแม่ท่านว่ายังไงบ้างกับเรื่องนี้ ?
“คุณแม่แล้วแต่เราอยู่แล้วค่ะ แก่แล้ว ปีนี้ 35 แล้ว (หัวเราะ) คือเชียร์ไม่ได้มีความกดดันจากใครมาเป็นตัวกดดันเชียร์อยู่แล้ว ดังนั้นทุกวันนี้เชียร์ก็ยังใช้ชีวิตของเชียร์ไปเรื่อยๆ และก็โฟกัสในสิ่งที่เราทั้งคู่กำลังทำอยู่ ซึ่งถ้าหากมันถึงวันที่พอดีแล้วจริงๆ ก็คงต้องเป็นวันนั้น แต่ถ้าถามว่ามีคนถามเรื่องนี้เยอะไหม เชียร์ก็ต้องยอมรับว่า ทุกวันค่ะ (หัวเราะ)”

ได้คุยกับ บิ๊ก บ้างไหมว่าต้องทำไงเวลามีคนถาม ?
“เขาก็ถูกถามเหมือนกันค่ะ แต่อย่างที่เชียร์บอก เราสองคนไม่ได้เร่งไม่ได้รีบร้อนอะไร เรารอให้จังหวะชีวิตของเราชัวร์ก่อนดีกว่า เพราะว่าสุดท้ายแล้วมันก็อยู่ที่เราสองคน”

กลัวการถูกเซอร์ไพรส์บ้างไหม ?
“ดิฉันคิดว่าแผนที่เขาวาง ไม่มีทางเล็ดลอดจากการรับรู้ของดิฉันได้ (หัวเราะ) เราจับโป๊ะเก่งอยู่แล้ว หลอกดิฉันไม่ได้”

  • แก๊งเพื่อนรัก “เบญจา คีตา ความรัก” พร้อมหน้าในรอบ 20 ปี เพื่อ “แตงโม”
  • ส่อง 8 นักแสดงสาวจากละครวัยรุ่นในตำนาน เบญจา คีตา ความรัก ผ่านไป 19 ปี สวยขึ้นทุกคน