“เจมส์ ธีรดนย์” หลงรักการเข้าครัวไปแล้ว เปิดใจสาเหตุที่สนุกกับการเป็นเชฟ

ทั้งสนุกและหลงรักการเข้าครัวแบบสุดๆ ไปแล้ว สำหรับนักแสดงหนุ่ม เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ ที่ตอนนี้หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็มักจะคิดสรรเมนูต่างๆ มาฝึกทำทดลองฝีมือของตัวเองอยู่เสมอ

ล่าสุด เจมส์ ธีรดนย์ ก็ได้เผยให้ฟังว่า “คือถ้าไม่ได้ทำอาชีพนักแสดงก็คงไปเรียนเชฟต่อแล้วครับ อยากแพลนไปเรียนมาก แต่ไทม์ไลน์มันชนครับ มันต้องไปยาวประมาณ 10 เดือน และต้องฝึกงานอีก 2 เดือน ก็จะ 1 ปีพอดี เราไม่ได้มีช่วงว่างแบบนั้น”

ทำไมถึงชอบเข้าครัว ?
“ตั้งแต่รายการเลยครับ พอจบก็มีโอกาสได้ทำของตัวเอง แล้วเรารู้สึกสนุกอะ อาหารมันอยู่กับเราตลอด เราสนุกกับทุกอย่างและอินกับมันมาก”

เรามองอาชีพนักแสดงกับเชฟยังไงบ้าง ?
“อาชีพนักแสดงคืองานหลักอยู่แล้วครับ เชฟคือตอนนี้เรียกว่าเป็นงานอดิเรกที่สามารถประกอบอาชีพได้ในรูปแบบหนึ่งของมันครับ”

เราไปเอาสกิลการทำอาหารมาจากไหน ?
“เรียนเพิ่มครับ และประสบการณ์จากการที่ได้ไปเจอเชฟท่านอื่น มันก็ได้รู้ทริกใหม่ๆ จากเขา ได้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา”

วางแผนกับสายงานนี้ยังไงบ้าง ?
“ผมว่าอย่างแรกเลยคือชอบมันก่อน พอมีโอกาสคนติดต่อมา เราก็อยากทำให้ดีที่สุด ทำตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ ค่อยๆ เปลี่ยนให้มันไปอยู่ในวงการด้วย ที่มีทั้งความบันเทิงและวงการอาหารให้อยู่ด้วยกัน”

ถ้าเราไม่ได้เป็นนักแสดง หันไปเป็นเชฟอย่างเดียวก็สามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ ?
“ยังไม่ถึงขนาดนั้นครับ ยังไม่เก่งๆ”

เราถนัดทำอาหารประเภทไหน ?
“เราคุ้นชินกับรสชาติอาหารไทยที่สุดแล้ว แต่เราไม่ได้รู้จักพวกวัตถุดิบอาหารไทยเยอะขนาดนั้น ส่วนใหญ่จะไปทางอาหารที่ชอบอย่างสเปนมากกว่า อาหารไทยทำยากมาก เครื่องเยอะด้วย การทำครัวต้องใจเย็น บางอย่างใจร้อนไม่ได้เลย จะพังไปหมด พอทำครัวก็ทำให้ใจเย็นลงได้นะ คนที่ทำครัวส่วนใหญ่จะไม่ชอบล้างครัวหลังทำเสร็จ แต่ถ้ามีคนล้างให้ก็จะสนุกมากขึ้น แต่ผมล้างเองนะ”

เหนื่อยไหม เพราะต้องทุ่มเวลาให้ครัวเยอะเหมือนกัน ?
“ผมว่าสุดท้ายแล้วเหมือนเราซื้อเสื้อผ้ามาตัว ต้องส่งซักแห้งไม่ให้เสื้อหด การดูแลเครื่องครัวก็เหมือนกัน เราต้องดูแลให้ดีที่สุด เพราะมันก็ไม่ใช่ราคาถูกเนอะ”

มีใครช่วยชิมบ้าง ?
“หลายคน (หัวเราะ) ปกติเราทำจะทำเป็นรสชาติเราอยู่แล้ว ก็จะมีคนคอยติบ้าง เราต้องรับฟังทุกคอมเมนต์และปรับแก้ให้รสมือเราได้พอดี”