“อ้อม พิยดา” จากนางเอกสู่ผู้จัดมือทอง ชีวิตที่ไม่ซับซ้อน คุยกับอ้อมไม่จำเป็นต้องตีความ

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนางเอกในตำนานที่คุณภาพคับแก้ว สำหรับ อ้อม-พิยดา จุฑารัตนกุล ที่เรียนรู้ เติบโตมาในวงการบันเทิงตั้งแต่เด็ก ฝากผลงานให้แฟนๆ ติดตามมาแล้วนับไม่ถ้วน และยังคว้ารางวัลมาแทบทุกเวที จนตอนนี้ อ้อม พัฒนาตัวเองเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้จัดละครมือทอง ที่ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะผลงานเข้าตาแฟนๆ จนขึ้นแท่นผู้จัดละครที่น่าจับตามองในยุคนี้

ล่าสุด อ้อม พิยดา ก็ทำเอาแฟนละครละสายตาจากจอทีวีไม่ได้กับละครเรื่อง “แค้นรักสลับชะตา” ออกอกาศทาง ช่อง 3HD สนุกเข้มข้น ลุ้นกันทุกตอน จนเป็นที่พูดถึงสนั่นโซเชียล งานนี้ พลาดไม่ได้ ขอคว้าตัวสาวเก่งขวัญใจแฟนๆ คนนี้มาพูดคุยกันถึงผลงานชิ้นล่าสุด พร้อมกับเปิดเรื่องราวเบื้องหลังความเป็นนางเอกในตำนานของอ้อม ล้วงเคล็ดลับทำยังไงให้เป็นดาวค้างฟ้าดวงเด่นเช่นทุกวันนี้

 ละคร “แค้นรักสลับชะตา” ฟีดแบ็คดีตั้งแต่ปล่อยทีเซอร์เลย?

“ค่ะ อ้อมเชื่อว่าถ้าคนที่ได้ดูแล้วคิดว่าเขาคงอยากดูต่อ เรื่องนี้เป็นพล็อตที่เราพล็อตกันขึ้นมาเอง เป็นเรื่องราวการสลับร่างกันของคนสองคน พูดง่ายๆ คือ คนดีที่สุดกับคนเลวที่สุดมาสลับร่างกัน มันจะเกิดอะไรขึ้นกับคนรอบข้างเขา จะรับกันได้มั้ยค่ะ สนุก เข้มข้นมากจริงๆ”

 สำหรับผู้จัดแล้ว เรื่องนี้มีความพิเศษยังไงบ้าง?

“เรื่องนี้เราพยายามทำให้โมเดิร์น แต่ก็ไม่โมเดิร์นถึงขั้นดูลำบากหรือเข้าถึงยากนะคะ เราก็พยายามตอบโจทย์ตัวเอง อย่างเวลาเราดูหนัง ไม่ว่าจะหนังฝรั่ง หนังเกาหลี ยุโรป หรอ เอเชีย เวลาเราดูเราจะเห็นว่าเขาถ่ายภาพสวยมาก ตัวอ้อมเองเรียกว่าเป็นคนละครมาตั้งแต่เด็ก ชอบทำโปรดักชั่นเลยเอาตรงนี้มาใส่ในงานของเรา คือ เล่าเรื่องเหมือนละครแต่ถ่ายภาพสวย ทำให้คนดูได้อรรถรสทั้งเรื่องภาพและเนื้อเรื่อง ที่เป็นความสนุกรสชาติที่คนไทยน่าจะชอบ ก็จะมีความมุ้งมิ้ง มีความมันส์ สนุกเข้มข้น รวมถึงดราม่าด้วยค่ะ”

อ้อม และ พระเอกทั้งสอง

ละครเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เท่าไหร่แล้ว ที่อ้อมทำในฐานะผู้จัด?

“เรื่องที่ 7 ค่ะ ต้องเรียกได้ว่าละครทุกเรื่องที่ทำเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับอ้อมหมดเลย ตั้งใจทำทุกเรื่องรู้สึกว่าจะท้าทายมากขึ้นทุกเรื่องด้วย แต่อ้อมว่าอย่าท้าทายเยอะเลย (หัวเราะ) เดี๋ยวจะไปกันใหญ่ เอาเป็นว่าสังคมตอนนี้ก้าวไปถึงไหนเราก็ก้าวตามสังคมให้ทันดีกว่าแล้วก็พยายามนำเสนอเรื่องราวที่หลากหลายประมาณนั้นดีกว่าค่ะ”

 จากนักแสดงขยับมาเป็นผู้จัด ตอนนี้ทุกอย่างถือว่าเข้าที่หรือยัง?

“ก็ต้องเข้าที่แล้วล่ะ ทำมาหลายเรื่องแล้ว (หัวเราะ) แต่ในทุกเรื่องก็มีความท้าทายในตัวของมันเอง เช่น ในทุกเรื่องเราต้องเปลี่ยนทีมนักแสดงใหม่บ้าง เก่าบ้าง ก็เรียกได้ว่ามีภูมิต้านทานมากขึ้น และรู้ถึงปัญหามากขึ้น การเป็นผู้จัดสำหรับอ้อมมันไม่ยากถ้าเราสู้ค่ะ (หัวเราะ) ที่ยากสุดก็คงเป็นเรื่องแรกที่เราทำเพราะเราเหมือนเด็กเพิ่งตั้งไข่ หัดเดิน พอเราทำมาเรื่อยๆ ก็เกิดความชำนาญ เหมือนทุกๆ อาชีพ ยิ่งถ้าเราฝึกฝน เรียนรู้เยอะเราก็จะทำเป็นเร็ว ถ้าเราใส่ใจในงานมากเท่าไหร่เราก็จะทำได้ดีขึ้น”

“ด้วยความที่อ้อมชอบทำงานโปรดักชั่นอยู่แล้วด้วยเลยอยู่กับหน้าที่ตรงนี้ได้ อ้อมไม่ใช่คนชอบทำงานรูทีน หรือ อยู่นิ่งๆ เท่าไหร่ ก็เรียกว่าเป็นพวกคนอยู่ไม่สุขน่ะค่ะ พอมีคนอยู่ไม่สุขมารวมตัวกันก็จะเกิดความสนุกขึ้นในแต่ละภาคส่วนของงานที่เราทำกัน คนโปรดักชั่นโดยธรรมชาติจะไม่ชอบความซ้ำซากจำเจ และพร้อมจะเผชิญอะไรใหม่ๆ อยู่แล้วค่ะ ทุกอย่างเลยโอเคสำหรับอ้อม แต่ถ้าให้นั่งทำงานนิ่งๆ หรือเข้าออกเป็นเวลาแบบนั้นก็ไม่ค่อยจะไหวสำหรับอ้อมเท่าไหร่”

ผู้จัด อ้อม พิยดา ดุมั้ย?

“ก็ไม่ดุนะ แต่จริงจัง ตั้งใจมากกว่าค่ะ นักแสดงทุกคนเขาก็เข้าใจในการทำงานอยู่แล้ว อ้อมก็ไม่ได้ดุอะไร มีดุสุดก็ดุกระทิง (หัวเราะ) เพราะบทนี้อาจจะยากหน่อยสำหรับวัยเขา”

อ้อม พิยดา

เป็นคนหนึ่งที่โตมาในวงการบันเทิง สำหรับอ้อมวงการบันเทิงเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

“เปลี่ยนมากค่ะ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่อ้อมว่าก็เปลี่ยนทุกวงการนะ สำหรับอ้อมการปรับตัวก็ คือ เปิดรับเท่านั้นเองค่ะ เพราะถ้าเราทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว มันก็เต็มแก้ว ถ้าเราเปิดรับเราก็จะได้อะไรใหม่ๆ วงการบันเทิงสำหรับอ้อม มันก็ คือ อาชีพ อาชีพหนึ่งเท่านั้นแหละ เป็นทางเลือกสำหรับทุกคน ก็เหมือนอาชีพอื่นทั่วๆ ไป เพียงแต่ว่าสำหรับอ้อมอาชีพนี้เป็นอาชีพที่อ้อมชอบ พอเราชอบเราก็จะมีความภูมิใจในงานที่ทำออกไป เพราะพูดตรงๆ ถ้าไม่ชอบ ใจไม่รักก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ”

ช่วงที่เป็นนางเอกดัง ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองดังมั้ย?

“ไม่ค่ะ เพราะทำงานทุกวันๆ มันไม่ได้มีโซเชียลเหมือนทุกวันนี้ จะรู้ว่าตัวเองมีชื่อเสียงก็ตอนไปงานอีเว้นต์ค่ะ ได้ไปเจอคนบ้าง เพราะเวลาเราทำงานเราก็จะอยู่กับฝั่งโปรดักชั่น อ้อมทำงานมาตั้งแต่โทรศัพท์ยังไม่เห็นหน้า จนตอนนี้พัฒนาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ในเมื่อโลกมันเปลี่ยนไปการทำงานของเราก็ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันตามโลก”

ภาพของ อ้อม เป็นนางเอกยิ้มสวย ดูหวานๆ แต่จริงๆ แล้วลุยมากจริงมั้ย?

“เป็นคนลุยๆ ค่ะ ภาพความหวาน เรียบร้อย คนอาจจะติดภาพจากบทบาทที่เราแสดง  แต่ถ้าถามถึงตัวตนจริงๆ ก็เป็นคนลุยๆ เป็นคนตั้งใจ จริงจัง จะมีมุมเฮฮาบ้าง อ้อมก็เป็นมนุษย์ทั่วไปนั่นแหละ เป็นคนพูดตรง มีอะไรก็พูดให้ชัดกันไปเลย หลายคนที่ทำงานกับอ้อมจะชอบแบบนี้นะ เพราะว่าในครั้งแรกที่เจอกันเขาอาจจะรู้สึกว่า โอ้โห! พี่บอกตรงขนาดนี้เลยเหรอ

ซึ่งอ้อมก็รู้สึกว่า ในเมื่อเราอยากได้อะไรเราก็บอกตรงๆ มันจะทำให้เราทำงานกันง่ายขึ้นไงคะ ถ้าเรามัวแต่พูดอ้อมไปอ้อมมา ต้องตีความกันมันก็จะช้า แต่ก็แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนนะคะ แต่สำหรับอ้อม อ้อมเลือกพูดตรงๆ ไม่ซับซ้อน เรียกว่ากับอ้อมไม่มีอะไรต้องตีความค่ะ ในละครเราตีความกันเหนื่อยแล้ว ไม่ต้องมาตีความกันเองหรอก

 เคยคิดจะหันไปทำอาชีพอื่นบ้างมั้ย?

“ตั้งแต่เรียนจบก็มาทางนี้เลย แต่ถ้าจะไปทางอื่นก็คงเป็นงานที่ไม่อยู่สุขเหมือนกันแหละ (หัวเราะ) อย่างที่บอกว่าไม่ใช่คนที่ชอบทำอะไรนิ่งๆ เพราะเวลาเรานิ่ง เราไม่มีอะไรทำแล้วจะรู้สึกย้วย รู้สึกไม่สนุกค่ะ เราเป็นคนค่อนข้างไฮเปอร์”

อ้อม พิยดา

สิ่งที่ทำทุกวันนี้ตอบโจทย์ชีวิตหรือยัง?

“โห! อ้อมว่ามันยังไปได้เรื่อยๆ ค่ะ มีโอกาสอะไรเข้ามาก็ลองทำ อย่างตอนนี้นอกจากเป็นผู้จัดก็ทำคลื่นวิทยุ  Flex 104.5 ด้วย ถ้ามีโอกาสอะไรที่เรารู้สึกว่าสนุกอ้อมก็ยังอยากทำค่ะ”

หนักสุดในชีวิตนักแสดงของเราคืออะไร?

“สำหรับอ้อมไม่มีอะไรที่รู้สึกหนักสุดเลย ทุกอย่าง คือ การเรียนรู้และก้าวข้ามผ่านให้ได้เท่านั้นเอง มันขึ้นอยู่กับว่าทุกๆ คนจะรับและก้าวข้ามผ่านมันได้เร็วแค่ไหนเพราะนั่นคือชีวิตค่ะ

“ก็ต้องมีบ้างบางวันที่เรารู้สึกว่าตื่นมาแล้ววันนี้ไม่อยากไปกองเลย อะไรแบบนั้นก็มี แต่เราก็ต้องหารากฐานของเราว่า เราชอบอะไร เราเจออะไร เรามีความสุขกับตรงไหน อ้อมไม่ได้บอกว่าทำงานตรงนี้แล้วทุกอย่างมันสวยหรู ไม่มีความเซ็งเลย มันไม่มีหรอกอะไรที่จะแฮปปี้ตลอด แต่ด้วยรวมๆ แล้ว ความสุของเรามันยังมีกับตรงนี้

บางวันมันล้มแต่เราก็ยังพร้อมที่จะลุกไปกับมัน การที่เราจะเจอสิ่งที่ใช่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราต้องมีความตั้งใจที่จะสู้ก่อน ก่อนที่จะรู้สึกว่าไม่ไหวละเปลี่ยนดีกว่า ความท้อทุกคนมีหมด แต่เรามีกำลังใจแค่ไหนล่ะ ที่จะก้าวข้ามไปเพื่อหาสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองให้เจอว่า ความฝันอยู่ที่ไหน ความชอบอยู่ที่ไหน มีความสุขที่จะทำอะไร

วงการบันเทิงมันอยู่ยากจริงมั้ย?

“มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วยค่ะ เรื่องอยู่ยากอ้อมว่าอยู่ยากทุกวงการแหละอ้อมเชื่ออย่างนั้น เพียงแต่ว่าวงการของเราเรามีเจ้านายเป็นคนดู หลายๆ อาชีพเจ้านายของเขา คือ เจ้าของธุรกิจ หรือ เจ้าของบริษัท แต่สำหรับนักแสดงเจ้านายของเราคือคนดู ซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียว เรามีเจ้านายเยอะ

อย่างเมื่อก่อนตอนอ้อมเด็กๆ คนอาจจะได้เห็นเราแค่งานแสดง แต่เดี๋ยวนี้ด้วยความที่ทุกอย่างพัฒนา เข้าถึงกันง่ายขึ้น เห็นกันได้ง่ายขึ้นเราอยู่ในสปอตไลท์คนก็ต้องเห็นในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องการชีวิต หรือ อื่นๆ ด้วยแต่ก็ต้องเข้าใจว่าจะให้ถูกใจทุกคนมันก็ยากนะคะ เราต้องยอมรับตรงนี้ด้วย”

อ้อม พิยดา

หลายคนตั้งคำถามว่าทำให้ดังอาจจะง่ายแต่ทำยังไงให้ดังนาน?

“นั่นน่ะสิ สำหรับอ้อมก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจในการทำผลงานนั่นแหละค่ะ การเป็นนักแสดงก็ต้องเป็นนักแสดงจริงๆ เราก็ไม่ได้จะสวยหล่อเท่าเดิมตลอดไป แต่สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ก็ด้วยคุณภาพของงานทำให้คนดูเขามีความสุขกับสิ่งที่เราแสดงให้เขาดู ไม่ว่าเราจะอายุขนาดไหน เล่นเป็นบทบาทอะไรเขาก็ยังจะอยากดูเราแสดงอยู่ค่ะ”

เรียกได้ว่าจริงจัง จริงใจ สมความเป็นตัวแม่แห่งวงการจริงๆ สำหรับ “อ้อม พิยดา” และดูเหมือนความอยู่ไม่สุขของเธอก็กำลังทำเอาแฟนๆ ติดอกติดในผลงานสุดท้าทาย และพัฒนาตัวเองไปอย่างไม่สิ้นสุด สำหรับใครที่เป็นแฟนของอ้อมทั้งแฟนละคร และแฟนในฐานะผู้จัดละคร ก็ส่งกำลังใจให้เธอกันรัวๆ แอบบอกว่ามีอีกหลายอย่างที่เจ้าตัวอยากจะทำ อีกไม่นานคงได้เห็นกันแน่นอน