“ปราง กัญญ์ณรัณ” เล่าโมเมนต์ถูกขอแต่งงาน เผยตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเล่นได้ทุกช่อง

เป็นอีกหนึ่งคู่ที่กำลังจะมีข่าวดี หลังหนุ่มโต้ง ทูพี ทำเซอร์ไพรส์คุกเข่าขอสาวปราง กัญญ์ณรัณ แต่งงานท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติกที่นิวยอร์ก ท่ามกลางความยินดีของทุกคนที่ได้มราบข่าว ซึ่งงานนี้พิได้เจอสาวปรางที่าร่วมบวงสรวงละครฟ้าเพียงดิน เจ้าตัวก็เล่าโมเมนต์ดังกล่าวให้ฟัง พร้อมอัปเดตความคืบหน้าเรื่องงานแต่งด้วย

เล่าโมเมนต์ตอนที่โต้งทำเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานให้ฟังหน่อย?

“จริงๆ ที่ไปนิวยอร์กเป็นทริปที่ค่อนข้างกระชั้นชิด คือเหมือนโต้งเขาไปเล่นคอนเสิร์ตค่ะ แล้วเขาก็เลยชวนว่าไปด้วยกันไหม แล้วจริงๆ ทำเพลงกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ เขาเลยบอกว่าถ้าได้ไปก็ไปถ่ายเอ็มวีด้วยเลยไหม เราก็เลยบอกว่าได้สิไหนๆ ไปแล้วก็ให้มันได้งานด้วย แต่ก็เหมือนมีปัญหาอะไรนิดหน่อยด้วยความที่กระชั้นชิดมากตากล้องก็หาไม่ได้ เหมือนเขาต้องบินมาจากแคนาดา แล้วเขาก็มีปัญหา เราก็เลยไม่ได้คิดว่าจะมีเซอร์ไพรส์เพราะตอนแรกเกือบจะไม่ได้ถ่ายเอ็มวีแล้วเหมือนกัน”

ไม่มีเอะใจเลย?

“ไม่เอ๊ะอ๊ะอะไรเพราะเหนื่อยมาก (หัวเราะ) โต้งเล่นคอนเสิร์ตที่แอลเอ เวกัส แล้วก็นิวยอร์ก แล้วเราไปแค่ 10 วันอ่ะค่ะถือว่าน้อยมาก แล้วเราก็เหนื่อยกันมาก คุยกันแต่เรื่องงานตลอด”

แหวนใส่ได้พอดีเลย?

“พอดีเลยเพราะเหมือนเขามาหลอกถามพี่ผู้จัดการของเรา ว่ามีงานติดต่อมาขอไซส์แหวนหน่อยอะไรประมาณนี้ ผู้จัดการเราก็บอกไป”

บรรยากาศบนตึกนั้นไม่ชวนให้คิดเลยเหรอ?

“ไม่เลย ตึกที่เขาขึ้นไปขอแต่งงานคือตอนแรกหนูจะไม่ขึ้นไปด้วย (หัวเราะ) เพราะว่ามันหนาวมาก เลยบอกว่าโต้งไปถ่ายที่อื่นกันไหม มันมีที่สวยๆ อีกเยอะเลย จะเทอยู่แล้วเพราะมันหนาวมากไม่ไหว แต่เขาก็บอกว่าลองขึ้นไปก่อนมันสวยมากเลยนะ ขึ้นไปแป๊บเดียวรอพระอาทิตย์ตกดิน เขาบอกด้วยว่าพี่นานาซื้อตั๋วไว้ให้ จองไว้ให้แล้ว เราก็เลยโอเค ตอนนั้นก็ยังไม่เอ๊ะหรือเอะใจอะไรเพราะมันเหนื่อยมาก แต่มาเริ่มตอนที่ทำไมพี่นานามาด้วย ตอนแรกเราไปถ่ายกันแค่ 3 คน แล้วเหมือนพี่นานาบอกว่าพี่ก็อยากขึ้นมาด้วย เราก็แบบแม่ๆ เอากล้องมาทำไมเนี่ย (หัวเราะ) พี่นานาบอกว่าแม่อยากถ่ายรูปสวยๆ ให้”

จังหวะที่เขาลงมานั่งคุกเข่าเป็นยังไงบ้าง?

“ตกใจค่ะ ความที่ปรางกับโต้งคุยกันมาตลอดว่าเรื่อยๆ ไม่ซีเรียส ไม่ได้รีบเร่งเลยเพราะเราเข้าใจด้วยอยากให้เขาทำงานชิลๆ สบายๆ ไม่ต้องมานั่งเครียดว่าต้องแต่งงานภายในกี่เดือนกี่ปี ถามว่าตอนที่คุกเข่าเขาพูดอะไร จำไม่ได้ค่ะ จริงๆ มันมีประโยคที่เขาพูดยาวมาก แล้วเราก็ดีใจจนจะร้องไห้ แต่หูดับไปเลย พอขอเสร็จโต้งก็มาถามว่าจำได้ไหมเนี่ยว่าพูดอะไรไปบ้าง เราบอกจำไม่ได้ แต่ตอนนั้นคือพยักหน้าไปก่อน (หัวเราะ)”

วันนี้ไม่ได้ใส่แหวนมา?

“ไม่ได้ใส่แหวนมาเพราะว่ากลัวหาย ตอนที่พี่แอร์ ภัณฑิลาลงรูป โต้งรีบไดเร็กต์มาเลยบอกว่าดูไว้เป็นตัวอย่างนะ”

แสดงกว่าเพชรใหญ่มาก?

“ก็ไม่ขนาดนั้น ไม่แน่ใจว่ากี่กะรัตต้องถามโต้งค่ะ เราก็ถามว่าไปแอบซื้อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาบอกว่าซื้อไว้ 3-4 เดือนแล้ว เขาบอกว่าจริงๆ มีแผนหลายแผนแหละ ที่กรุงเทพฯ ก็มีวางแผนไว้ด้วย แต่พอดีทริปนิวยอร์กมันแทรกเข้ามาแล้วเขาคิดว่าที่นี่ก็บรรยากาศดี คือเป็นครั้งแรกที่ปรางไปนิวยอร์กด้วยค่ะ ดีใจแหละที่เขาเซอร์ไพรส์ทำให้ มีหลายอย่างที่เขาก็ตั้งใจ หลังจากที่ขอแต่งงานแล้วเขาก็มีจ้างนักดนตรีมาเล่นให้อีก ลองไปติดตามในเอ็มวีได้นะคะ แต่เพลงนี้พวกเราตั้งใจจะทำกันอยู่แล้ว ทำตั้งแต่ต้นปีแล้วค่ะ แต่ก็แก้มาเรื่อยๆ

มีฤกษ์แต่งงานหรือยัง?

“ยังเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าที่ขอแต่งงานคือเหมือนเขาตั้งใจจะขอก่อน แต่ว่าคู่เรายังไม่ได้ดูฤกษ์ ยังไม่ได้ขออนุญาตอะไรเท่าไหร่เลยค่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะแต่งที่ไหนเมื่อไหร่ แต่เขาบอกว่าก่อนจะขอเราแต่งงานเขาโทรหาคุณพ่อคุณแม่ของเราเรียบร้อยแล้ว อ๋อใช่! คำแรกที่ถามเขาคือขอพ่อขอแม่หรือยัง (หัวเราะ) กลัวพ่อแม่ช็อกไงเพราะตอนนั้นเราอยู่กันที่นิวยอร์ก อยู่ดีๆ ถ้ามารูปขอแต่งงานพ่อแม่คงช็อก เขาก็บอกว่าโทรแล้วเรียบร้อย พ่อแม่โอเคทุกคนไม่มีใครว่าอะไร แต่โต้งก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะว่าพ่อแม่พูดว่าอะไรบ้าง เราก็ถามพ่อแม่ว่าตอนที่โต้งโทรมาได้พูดอะไรไปบ้างเนี่ย พ่อแม่บอกว่าไม่ได้พูดอะไรเยอะ เขาไม่ยอมบอกกันค่ะ จริงๆ ช่วงหลังโต้งก็เข้าทางคุณพ่อคุณแม่เยอะ มีโอกาสได้เจอได้ทานข้าวด้วยกันค่อนข้างบ่อย เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

คิดว่าจะแต่งเร็วๆ นี้ไหม?

“คิดว่าอาจจะข้ามปีหน้าไปก่อนเพราะอาจจะไม่ทันหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ เดี๋ยวต้องดูเรื่องฤกษ์ หนูก็อยากให้มันสบายๆ ไม่อยากเครียดกับงานแต่งด้วยเพราะช่วงนี้ก็งานเยอะมาก”

ธีมงานแต่งที่คิดไว้?

“อยากได้เล็กๆ แต่โต้งก็เพื่อนเยอะ เขาก็อยากจัดให้เพื่อนด้วย ส่วนเราก็อยากเป็นแนวน่ารักแบบครอบครัว อาจจะมีหลายๆ งาน ธีมก็มีคิดไว้บ้างนะคะ อยากแต่งที่ทะเลอะไรแบบนี้ บอกโต้งไปแล้วค่ะ เขาก็บอกว่าได้ๆ แต่เขาก็อยากจัดใหญ่ๆ ด้วยที่มีเพื่อนเขาเยอะๆ”

ถามถึงเรื่องที่มาร่วมงานกับทางช่องวัน?

“ปรางหมดสัญญากับทางบรอดคาซท์ฯ แล้วค่ะ ตอนนี้เป็นฟรีแลนซ์ สัญญาหมดไปตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่ว่าก็ยังมีละคร สายลับลิปกลอส กับ พรหมลิขิต ที่ยังถ่ายอยู่ หลังจากนี้ก็จะได้เห็นหลากหลายช่อง ส่วนตัวคิดว่าเป็นฟรีแลนซ์ก็ดี ด้วยอายุเรา 30 แล้วก็อาจจะแต่งงานในอนาคต จริงๆ ที่ออกมาเป็นฟรีแลนซ์เพราะรู้สึกว่าเราเลือกที่จะทำงานและจัดสรรตารางให้ตัวเองได้มากขึ้นมากกว่า เช่นแบ่งเวลามาทำเพลงได้ รับละครน้อยลง แล้วแต่ว่ามีอะไรเข้ามา คืออยากรับงานที่เราอยากทำจริงๆ ค่ะ”

ได้ปรึกษาพี่หน่อง อรุโณชาก่อนไหม?

“แน่นอนค่ะ ทุกครั้งที่หมดสัญญาก็ได้เข้าไปคุยกับพี่หน่องอยู่แล้ว ปรางก็ต้องขอบคุณพี่หน่องที่เข้าใจ เราก็บอกเหตุผลไปประมาณนี้ว่าโตแล้วขอให้เราได้มีอิสระในการเลือกทำงานมากกว่า ไม่ได้มีปัญหาะไรค่ะ พี่หน่องก็ยังรักกันเหมือนเดิม ถามว่าพี่หน่องมีรั้งไว้บ้างไหม ไม่ได้รั้ง แต่บอกให้เราลองตัดสินใจดีๆ เพราะก็เป็นครั้งหนึ่งในชีวิตในการตัดสินใจที่ค่อนข้างสำคัญค่ะ”