“ดีเจเพชรจ้า” เปิดใจหลังเซ็นใบหย่า “นิวเคลียร์” ชัดเจน! ไม่คิดแต่งงานอีกแล้ว

ได้มีโอกาสเจอกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ในงาน Shopee x Visa Sellers Grow Beyond ดีเจหนุ่มชื่อดัง เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย เลยได้ออกมาตอบทุกข้อสงสัยที่หลายคนยังคงคาใจ เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา นิวเคลียร์ หรรษา นับตั้งแต่ออกมาประกาศยุติสถานะคู่ชีวิตอย่างเป็นทางการ

โดย ดีเจเพชรจ้า ได้เผยว่า สำหรับตนและ นิวเคลียร์ ณ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ทำหน้าที่พ่อแม่ของลูกชาย ซึ่งก็คือ น้องไทก้า อย่างเต็มที่ ก่อนจะยืนยันอย่างชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นมือที่ 3 ว่าไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ส่วนตัวคงไม่คิดที่จะแต่งงานหรือมีครอบครัวอีกแล้วในอนาคต

ชีวิตของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“เลี้ยงลูกครับ และก็โฟกัสไปทาง ไทก้า อาม่า และก็ธุรกิจของตัวเอง ช่วงนี้จัดเต็มเลยครับ”

วิธีการมูฟออนของตัวเราเอง ?
“มันก็ค่อยๆ นะ ตอนนี้ต่างคนต่างก็อยากทำอะไรก็ทำไป ไม่ได้เกี่ยวกันแล้ว จะเกี่ยวกันก็แค่เป็นพ่อกับแม่ของไทก้าเท่านั้นเอง”

ความสัมพันธ์แบบนี้มันยากไหม ?
“ไม่ยากนะ คือถ้าเราไม่ได้ทะเลาะกัน มันก็ไม่มีอะไรยากเลย เพียงแต่มันอาจจะไม่คุ้นไม่ชินมากกว่า แต่ก็ใกล้จะชินละ เพราะมันก็นานพอสมควรแล้ว”

มีช่วงที่เราเซบ้างไหม ?
“มีเอ๋อๆ ไปแว่บๆ หนึ่ง”

เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย

หลายคนอยากรู้สาเหตุ ?
“วนลูปกลับมาเรื่องเดิมอีกแล้ว คือสาเหตุมันไม่มีเลย และเรื่องนี้ผมก็เคยบอกไปแล้ว หรือถ้าจะอธิบายให้แบบเข้าใจง่ายๆ คือมันแทบไม่มีคำตอบเลยครับ มันตอบไม่ได้จริงๆ ว่าความผิดพลาดนั้นมันมาจากตรงไหน และก็ไม่สามารถโทษใครได้ด้วย”

หลายคนมักมองไปที่เรื่องความเจ้าชู้ ?
“ถ้ามองว่าเจ้าชู้ เอ่อ…ผมนี่ระดับพระแล้วนะ จริงๆ (ยิ้ม) ตั้งแต่แต่งงานระดับเลเวลของผมนี่คือเป็นพระแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเจ้าชู้เลยครับ แต่ว่าตอนนี้โสดแล้ว ถ้าจะกลับไปเป็นแบดบอย ผมก็มีคอนเซปต์เลยว่า ‘กูกลับมาแล้ว’ ชัดเจน อยากทำในสิ่งที่สามารถทำได้ เมื่อมีโอกาสแล้วก็เอาให้เต็มที่เลย ไม่ต้องกั๊ก”

กระแสคอมเมนต์กระทบจิตใจเราบ้างไหม ?
“มีแต่คนให้กำลังใจนะครับ อาจจะมีแค่คอมเมนต์บางคอมเมนต์เท่านั้นแหละ ที่ถามว่าเลิกกันเพราะอะไร ซึ่งอย่างที่บอกผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน และผมก็ไม่สามารถย้อนกลับไปดูได้ด้วยว่ามันเพราะอะไร รู้แค่ว่ามันเป็นการตกลงกันของเราสองว่าตรงนี้มันสวยที่สุดแล้ว และเราสามารถยิ้มให้กันทุกวันได้ มันผ่านมาได้ด้วยดี”

เรื่องวันในการดูแลลูกก็คือตกลงได้ด้วยดีเช่นกัน ?
“ใช่ครับ คนละครึ่งเลยครับ และเดี๋ยวเดือน มกราคม น้องไทก้าก็จะเข้าโรงเรียนแล้วด้วย อะไรๆ ก็น่าจะง่ายขึ้น”

น้องเข้าใจสถานการณ์ไหม ?
“มันเป็นจังหวะพอดีด้วยครับ เพราะตอนเด็กๆ เขาจะนอนกับแม่ และไม่ได้มีผมควบเข้าไปด้วย เพราะตอนนั้นผมจะนอนหน้าห้องน้ำ เนื่องจากเวรผมเลี้ยงไทก้าคือ 6 โมงเช้า ถ้าหากผมต้องไปอยู่ในห้องที่ไทก้าเขาร้องทั้งคืน พอถึงเวรผม ผมคงเลี้ยงไม่ไหว ซึ่งไทก้าเขาก็จะรู้ว่าเวลานอนเขาจะนอนกับใครคนใดคนหนึ่งครับ”

ตอนนี้ยังอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ?
“ใช่ครับ ตอนนี้นิวยังอยู่ที่บ้านผม แต่เขาก็เตรียมสร้างบ้านที่บริเวณบ้านคุณพ่อเขาไว้แล้วครับ”

แบบนี้ต้องแบ่งการเลี้ยงลูกใหม่ด้วยไหม ถ้ามีการย้ายบ้าน ?
“ไม่ต้องแบ่งกันใหม่หรอก เราแบ่งกันแล้ว และอีกอย่างบ้านนิวกับบ้านผมก็ใกล้กันมากด้วย เวลาไปส่งไปรับลูกที่โรงเรียนเราก็ไปด้วยกัน เพียงแต่ว่าตอนกลับมาเขาก็อยู่บ้านเขา ผมก็อยู่บ้านผม เท่านั้นเอง”

ความรู้สึกมันต่างกันไหม จากที่เมื่อก่อนเป็นสามีภรรยา แต่วันนี้เหลือแค่คำว่าพ่อกับแม่ ?
“เปลี่ยนครับ เปลี่ยนเลย แต่ก่อนผมจะไม่ค่อยมีปากเสียง และก็ตามใจเขาทุกอย่าง แต่ว่าเดี๋ยวนี้ผมก็จะเลี้ยงลูกในสไตล์ผมเอง แฟร์ๆ”

แล้วน้องไทก้างอแงขึ้นไหม ?
“ไม่นะ คือถ้าเป็นในอดีตไทก้าอาจจะรู้ว่าพ่อเขาเป็นคนนุ่มนิ่มด้วยซ้ำ จะรู้สึกว่าคุณพ่ออ่อนโยน แต่จริงๆ พ่อเป็นสายเถื่อน แค่พ่อไม่เคยแสดงออกมา ซึ่งหลังจากนี้เขาก็จะโตมากับพ่อที่เป็นพ่อเขาจริงๆ (ยิ้ม)”

กลัวเขาปรับตัวไหมทันไหม ?
“ไม่นะ เพราะผมก็หยอดให้ตลอด หยอดให้เล่นรถ เล่นมอเตอร์ไซค์ เล่นของเล่นผู้ชาย เวลาพูดกับเขาก็พูดแบบแมนๆ”

ย้อนกลับไปตอนแรกที่เราบอกว่า กูกลับมาแล้ว ตอนนี้เริ่มมีเข้ามาบ้างหรือยัง ?
“ไม่มี (หัวเราะ) และอันนี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องผู้หญิงนะ ผมหมายถึงว่า ผมกลับมาสู่วงการแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ผมต้องเต็มที่กับการเลี้ยงลูก การทำธุรกิจ เลยไม่ได้รับงานในวงการ แต่ตอนนี้ไทก้ากำลังจะเข้าโรงเรียน ผมก็เลยสามารถรับงานได้แล้วครับ”

กูกลับมาแล้ว คือกลับมารับงานในวงการบันเทิง ?
“ใช่ครับ วงการบันเทิง ทุกอย่างที่มีเรื่องบันเทิงผมไปได้หมด”

แต่สาวๆ ยังไม่มา ?
“ยังไม่มาครับ แต่จริงๆ ผมลองนั่งคิดดูแล้ว ถ้ามีเข้ามาผมก็คงไม่มีเวลาให้หรอก”

แสดงว่าถ้าจะเปิดใจให้ชีวิตคู่อีกครั้ง คงอีกยาวเลย ?
“พูดไปเหมือนขี้โม้หรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ผมไม่อยากมีแล้ว ผมไม่อยากมี”

ไม่อยากมีครอบครัวแล้ว ?
“ใช่ ไม่อยากมีแล้ว”

แต่อย่างอื่นค่อยว่ากัน ?
“หมายถึงมีคนมาคุยให้สดชื่นอย่างนี้เหรอ เอ่อ…อย่างนั้นเอา (หัวเราะ) ถ้ามีคุยแล้วสดชื่นเอา”

ไม่แต่งงาน ไม่ผูกมัด ไม่เป็นครอบครัวแล้ว ?
“ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว คือผมรู้แล้วว่าชีวิตคู่มันยากนะ มันไม่หมูเหมือนที่เราเคยเข้าใจ ฉันรักเธอ เธอรักฉัน และมันก็เป็นอะไรที่สวยหรู คือมันไม่มี หรืออาจจะมีแต่เป็นคู่อื่น คู่อื่นที่เขาเคมีตรงกันจริงๆ”

เพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย

เหมือนเราจะเข็ด ?
“ไม่เข็ดนะ เพราะนิวเขาก็คือผู้หญิงที่น่ารักที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอ และก็เป็นแม่ที่ดีที่สุด ฉะนั้นผมจึงไม่ได้เข็ด เพียงแต่ว่าการอยู่กับใครสักคนโดยที่ไม่ทะเลาะกันเลยมันเป็นเรื่องยาก และผมก็ขี้เกียจทะเลาะกับคนอื่นด้วย”

ล่าสุดถูกปลอมอินสตาแกรม ?
“โห… มีหลายอันมาก และไม่ได้แบบไปโกงอะไรคนอื่นนะ แต่มันชอบไปจีบผู้หญิง ไปยืมเงินผู้หญิง ซึ่งเขาทำกับเหยื่อหลายคนมาก มีคน DM มาบอกผม หลอกทั้งคนไทย คนอินโด คนฟิลิปปินส์ และได้เงินไปเยอะมากเลยด้วย”

เขาใช้ชื่อว่า เควิน แต่เป็นรูปเราใบหน้าเรา ?
“ใช่ครับ หน้าผม และก็มีรูปลูกด้วย ผมก็เลยยิ่งไม่เข้าใจว่า เอ๊ะ! การที่เรามีลูกติด มันมีเสน่ห์เหรอ (หัวเราะ) ทำไมต้องเอารูปเราที่อุ้มลูกไปหลอกผู้หญิง ซึ่งผมก็ไม่เก็ตเหมือนกัน”

ตั้งใจจะจัดการยังไง ?
“เท่าที่ผมถามกับคนที่เดือดร้อน ก็เหมือนว่าคนที่ปลอมเขาจะปิดอินสตาแกรมหนีไปแล้ว แต่เดี๋ยวมันก็มาใหม่ครับ และผมก็แจ้งไปทางอินสตาแกรมหลายครั้งแล้วด้วย”

ตั้งใจจะจับตัวให้ได้เลยไหม ?
“คือเขาเป็นคนต่างชาตินะ และผมก็ทำอะไรไม่เลยนอกจากประจานเขาผ่านอินสตาแกรม กับเตือนให้ทุกคนระวัง รวมถึงส่งรีพอร์ตไปทางอินสตาแกรมของต่างประเทศ เพราะผมทำอะไรไม่ได้เลยจริง”