“จั๊กจั่น-เค” เปิดใจ วิวาห์รักหวานชื่น เจ้าบ่าวเผยคำพูดที่ทำให้ต้องเสียน้ำตา

ควงแขนกันออกมาแถลงข่าววิวาห์สุดหวานชื่น สำหรับคู่บ่าวสาวป้ายแดง จั๊กจั่น-อคัมย์สิริ สุวรรณศุข กับนักธุรกิจหนุ่มสุดหล่อโปรไฟล์เริ่ด เค-วัฒนา เจริญศักดิ์วัฒนา

โดยงานวิวาห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เค วัฒนา ถึงกับต้องแอบเสียน้ำตา เนื่องจากได้ยินคำพูดจากเพื่อนสนิทของ จั๊กจั่น ที่กั้นประตูเงินประตูทองเป็นด่านสุดท้าย ซึ่งพอเจ้าสาวได้ฟังจากปากเจ้าบ่าวก็ถึงกับแอบน้ำตาคลอเช่นกัน

จั๊กจั่น : “วันนี้ตื่นเต้นค่ะ ก็ลุ้นเนอะหลังจากที่เคยเลื่อนมาแล้ว ยังตื่นเต้นอยู่เลยค่ะ เพราะตั้งแต่เช้ามาก็รันงานยาวมาเลย”

เค : “เจ้าสาวสวยมากครับ สวยที่สุดเลยครับ (ยิ้ม)”

จั๊กจั่น : “พิธีช่วงเช้าก็เริ่มจากตักบาตร เป็นพิธีสงฆ์ และเป็นพิธีตั้งขบวนขันหมาก สวมแหวน รดน้ำสังฆ์ และก็มีพิธีรับไหว้ค่ะ”

เห็นช่วงเช้าเจ้าบ่าวร้องไห้ด้วย ?
เค :
“น้ำตาซึมคลอๆ ครับ เนื่องจากตอนนั้นเป็นการกั้นประตูสุดท้าย แล้วคนที่กั้นประตูเป็นคนที่สนิทกับจั๊กจั่นที่สุด คือสิบกว่าประตูที่ผ่านมาเป็นการเล่นแบบหยอกล้อสนุกสนานกันมากกว่า แต่พอประตูนี้เราไม่ได้คาดว่าจะมีคำถามหรือคำพูดที่แสดงความจริงใจ คนถามเขาพูดประโยคที่มันกินใจเรา เราเลยรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อเลยจะมีคำถามนี้มาหาเรา”

พอบอกได้ไหมว่าคำถามนั้นคืออะไร ?
เค :
“อยากให้คำมั่นสัญญาข้อหนึ่ง ว่าจะดูแลจั่น ว่าจะรักจั่น เหมือนที่เขาสองคนทำกันมาตลอด ก็เลยรู้สึกดีใจที่เขาสองคนไว้ใจ เชื่อใจเรา และวันนี้ก็จับมือเดินมาถึงจุดนี้แล้วครับ ก็รู้สึกมีความสุข น้ำตาแห่งความปิติครับว่าเราผ่านกันมาได้จริงๆ”

จั๊กจั่น : “(น้ำตาคลอ) ขอบคุณมากค่ะ จริงๆ คู่เราสองคนเจอเรื่องราวอะไรเหลือเชื่อมาเยอะ ขอบคุณที่เรายังจับมือกันตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้แน่นไม่ปล่อย สำหรับจั่นเรื่องความรักมันคือเรื่องที่เคยผิดหวังมา แล้วก็เป็นปัญหาใหญ่ของจั่นที่จั่นค่อนข้างจะกังวล แต่กับข่าวที่ออกมามันไม่ใช่เรื่องจริง จั่นมั่นใจในตัวเค เราจะต้องก้าวผ่านมันไปให้ได้ ความจริงก็คือความจริง ยังไงทุกคนก็ต้องรู้ในวันหนึ่ง ก็ดีใจที่ผ่านมันได้”

จั๊กจั่น : “จริงๆ ก็สงสารเขา เพราะเขาไม่ใช่คนที่อยู่ในสื่อ แต่ต้องมาคอยตอบคำถามในเรื่องส่วนตัวที่เป็นอดีตเมื่อสิบๆ ปีก่อน และต้องถูกออกมายืนต่อสื่อ ถูกเป็นที่พูดถึงของคนอื่นเขา อาจจะไม่ชินแบบเรา คือเกรงใจเขาและเกรงใจครอบครัวเขามาก ก็ต้องขอบคุณค่ะที่ยังจับมือกันและกันแน่นไม่ปล่อยจนถึงตอนนี้”

จั๊กจั่น : “คือตอนนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่เราเนอะ เราโตมาคนละครอบครัว ถูกเลี้ยงมาคนละแบบ พอมาถึงจุดนี้ก็อยู่ที่เราต้องจับมือเดินไปข้างหน้าแล้ว อาศัยความรัก ความเข้าใจ”

มีคำมั่นสัญญาอะไรให้กันและกันบ้างไหม ?
เค :
“ผมจะคอยบอกเขาตลอด ตั้งแต่เล่นละครแล้วครับ คือกลับบ้านมาเจอเรา จะมีความเครียดเนื่องจากงานและบทที่ได้รับ แรกๆ เราไม่เข้าใจ อาชีพนี้อะไรยังไง อยู่ด้วยสักพักเรียนรู้ สัมผัส แล้วรู้ว่าเขาต้องการพื้นที่เงียบๆ เราก็บอกเขาว่ามีอะไรก็คุยกับเรานะ เรารับฟัง แล้วมันก็ค่อยๆ ออกมา หมายถึงสิ่งที่อยู่ข้างใน เขาจะค่อยๆ ระบายออกมา ค่อยๆ เปลี่ยนตัวเอง ปรับตัวเอง และเรียนรู้กัน ผมจะบอกว่า ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว เราจะใช้ความเข้าใจและคุยกัน และปรับทัศนะคติเข้าหากันครับ”

จั๊กจั่น : “ก็สัญญาว่าจะดูแลกันและกันแบบนี้ตลอดไป และถ้าเรามีอะไรก็จะพูดจา พูดคุยกัน และปรับความเข้าใจกัน”

วันนี้ต้องใช้คำว่าสามีภรรยาแล้ว คำนี้คุ้นชินหรือยัง ?
จั๊กจั่น :
“ก็เริ่มคุ้นแล้วเหมือนกันค่ะ เพราะเราจดทะเบียนสมรสไปแล้วเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อเอาฤกษ์ หลายคนก็แซวตั้งแต่ตอนนั้นว่าเหมือนแต่งแล้วแหละ แต่เราเป็นผู้หญิงก็อยากจัดงานแต่งก่อน ฉันยังไม่ได้แต่ง แต่ก็เริ่มชินแล้วใคร ไปไหนคนก็จะมีแซว”

เปลี่ยนนามสกุลหรือยัง ?
จั๊กจั่น :
“ไม่ค่ะ ใช้เหมือนเดิมค่ะ ส่วนเรื่องลูกก็คิดว่าจะปล่อยเลยค่ะ เพราะอายุก็สมควรที่จะต้องมีได้แล้ว เราจะลองให้เป็นไปตามธรรมชาติก่อนค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ค่อยว่ากันในอีกปี สองปี”

เค : “ถ้าถามผมว่าอยากมีกี่คน ผมอยากมี 2 คน เวลามีปัญหาพี่น้องจะได้แชร์กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นครับต้องแล้วแต่เพศแม่ครับ เขาอุ้มท้องต้องถามเขา ผมไม่ได้อุ้มเอง ก็ต้องแล้วแต่เขา”

จั๊กจั่น : “เดี๋ยวจั่นขอลองคนนึงก่อนว่าโอเคไหม รอดไหม เพราะไม่เคยมีหลาน ไม่เคยมีน้อง ไม่เคยเลี้ยงใครเลย เคยแต่เลี้ยงในละคร เดี๋ยวขอดูของจริงว่าจะไหวไหม ขอคนนึงก่อนแล้วกัน”

  • “จั๊กจั่น” สวมชุดไทยงดงาม ควงแขนแฟนหนุ่ม “เค วัฒนา” เข้าพิธีวิวาห์สุดชื่นมื่น