“กองทัพ พีค” หนุ่มหล่อนักล่าฝัน เสน่ห์กระชากใจ กับฝีมือที่ไม่ใช่แค่เรื่องพรสวรรค์

เปิดตัวในฐานะพระเอกเต็มตัวได้อย่างสวยงาม สำหรับหนุ่มหล่อหน้าใส กองทัพ พีค พระเอกคนใหม่ของนางเอกสาวซูเปอร์สตาร์ เบลล่า ราณี ที่ตอนนี้กำลังโชว์ฝีมือทำเอาสาวๆ ใจละลายทั้งประเทศกับบท “คิว” เด็กฝึกตั๋วทนายในละคร “Dare To Love ให้รักพิพากษา” ทางช่อง 3 หลังจากพัฒนาตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เป็นที่รู้จักกันในฐานะลูกชายของนักแสดงคุณพ่อสุดหล่อ ปราบ ยุทธพิชัย 

ซึ่งหนุ่ม พีค ก้าวตามฝันตั้งแต่อายุยังน้อย ฝึกฝนฝีมือเข้าแข่งขันในเวทีต่างๆ ในต่างประเทศหลายต่อหลายโปรเจค และตอนนี้กลับเมืองไทยมาขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรก แฟนๆ ให้การตอบรับเป็นอย่างดี งานนี้ เลยต้องขอคว้าตัวหนุ่มมากความสามารถคนนี้มาพูดคุย เปิดมุมมองกันทุกซอกทุกมุม จะเป็นยังไงบ้างไปชมกัน

เปิดตัวด้วยงานละครเรื่องแรกเป็นยังไงบ้าง?

“เรื่องนี้เป็นละครเรื่องแรกของพีคเลย ตื่นเต้นมากครับ สนุกดี ด้รับประสบการณ์ใหม่ๆ จากที่ปกติพีคจะแค่ทำเพลง ร้องเพลง พอมาเป็นละครก็เป็นอีกศาสตร์นึงที่พีคไม่เคยสัมผัสมาก่อน เรียกว่าตื่นเต้นทุกๆ วันที่ได้ไปทำงาน ตั้งแต่มีข่าวว่าพีคจะได้เล่นละครเรื่องนี้ ก็ได้รับฟีดแบ็คกลับมาเป็นอย่างดีว่าอยากดูเร็วๆ ซึ่งตรงนี้เป็นกำลังใจ เป็นแรงให้พีคได้มากเลยครับ แต่ถามว่ากดดันไหมเรียกว่าตื่นเต้นมากกว่าครับ”

เรื่องแรกเจอระดับซูเปอร์สตาร์ “เบลล่า” ตื่นเต้นไหม?

“ตื่นเต้นครับ แต่สนุกมากเลย พี่เบลสนุกสนานเฮฮา จำได้ว่าเจอกันครั้งแรก ซีนแรก ใจเรามันบอกว่า “ไม่ตื่นเต้นหรอก” แต่จริงๆ คือ ตื่นเต้นจนเหงื่อท่วมจนพี่ช่างแต่งหน้าไม่รู้จะซับยังไงแล้ว (หัวเราะ) แต่พยายามปลอบใจตัวเองหนักมากว่าไม่เป็นไร ไม่ตื่นเต้นๆ กับพี่เบลถามว่าเกร็งไหม ไม่เกร็งเลยนะครับ ผมรู้สึกว่าพี่เบลเขาให้พลังเรามาเยอะมาก สนับสนุนเราดีมาก เล่นอะไรไปเขาก็เล่นกลับมา มีอะไรใหม่ๆ ตลอดทุกครั้งที่เราเล่นกัน มีอะไรที่โอเค หรือ ไม่โอเคพี่เขาก็จะแนะนำให้ กระซิบบอกกัน ก็เลยไม่ได้กังวลอะไรเท่าไหร่ครับ”

มาลองศาสตร์ละครครั้งแรกยากตรงไหนบ้าง?

“ตรงที่เราต้องสวมบทเป็นคนอื่นครับ อย่างการเป็นศิลปินเราเป็นตัวของเราเอง พอมาฝั่งละครเราต้องมีชีวิตเป็นอีกคนนึงเลย ในเรื่องพีคเป็นเด็กฝึกตั๋วทนาย ต้องเรียนรู้ภาษาทนาย ศัพท์กฎหมายอะไรต่างๆ ยากพอตัวอยู่ ที่ยากๆ สำหรับพีคก็เรื่องภาษานี่แหละครับ ตอนถ่ายเพิ่งกลับมาจากเกาหลีด้วย ภาษาไทยก็ยังไม่รู้ว่าชัดดีหรือเปล่า ช่วงแรกๆ ต้องปรับเยอะอยู่เหมือนกัน ต้องไปเรียนภาษาไทยเพิ่มด้วยครับ”

พีค-เบลล่า

“ตัวละครตัวนี้พูดง่ายๆ คือ จะเป็นวัยรุ่นคนนึง มีขับมอเตอร์ไซค์ด้วย สำหรับพีคขับมอเตอร์ไซค์นี่ยากที่สุด เพราะพีคขับมอเตอร์ไซค์ไม่เป็น (หัวเราะ)  ต้องมาเรียนรู้เอาที่กองเริ่มหัดใหม่หมด มีทีมงานคอยเซฟแต่ก็ขาสั่นอยู่บ้างเล็กน้อย แล้วก็อีกอย่างมีฉากที่ต้องเข้ากับหมาด้วย ต้องวิ่งหนีหมา แล้วปกติพีคเป็นคนกลัวหมา ในละครต้องไม่กลัวเพราะต้องปกป้องนางเอก พอสั่งคัทเท่านั้นแหละหมดสภาพเลยครับ พีคกลัวหมา (หัวเราะ)”

“แต่เรื่องการทำงานในกองถ่ายกับพี่ๆ ทุกคนราบรื่นมากเลย ทุกคนใจดีมาก คอยให้คำแนะนำตลอด แล้วก็เฮฮากันมาก เวลามีปัญหาอะไรไม่มีใครที่หัวเสียหรือใจร้อนเลยครับ”

เรื่องนี้ก็ทำเพลงประกอบละครเองด้วย?

“เป็นเพลงที่มีสตอรี่เพราะพีคทำเอง ชื่อเพลง “Promise You” ครับ แต่งเอง ทำเองหมดเลย เนื้อหาของเพลงก็ตามชื่อเลย “ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ” ก็เป็นแนวหวานๆ ครับ เป็นครั้งแรกของพีคที่ได้พัฒนาตัวเองในด้านนี้แบบเต็มที่ขนาดนี้ ได้ท้าทายตัวเอง เพราะพีคก็ไม่เคยทำเพลงสุดขนาดนี้ เพลงนี้ทำเสร็จหกโมงเช้า แล้วเจ็ดโมงไปถ่ายละครต่อเลย (หัวเราะ) ถือว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเองในเพลงนี้ด้วย ส่วนอีกเพลงนึง คือ เพลง “ทุกนาที” เพลงนี้พิเศษที่ พี่เบลล่า ตั้งชื่อเพลงให้ เป็นเพลงแรกที่พีคแต่ง และมอบให้กับละครเรื่องแรกที่พีคแสดงครับ อยากให้ทุกคนลองฟังกัน “

ก่อนหน้านี้พีคไปทำงานที่เกาหลี จีน ตอนนี้เจอโควิดกระทบกับชีวิตเรามากไหม?

“หลักๆ ก็เรื่องการเดินทางครับ เดินทางออกนอกประเทศไปทำงานยาก ต้องเซฟตัวเองมากๆ ก่อนหน้านี้ไปจีนมาทางทีมงานก็โอเคครับดูแลเป็นอย่างดีในเรื่องของการฉีดพ่นฆ่าเชื้อต่างๆ ตอนบินไปครั้งแรกใส่ชุด PPE ไปเลย ส่วนกับทางเกาหลีจริงๆ มีโปรเจคอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนนี้ก็อย่างที่ทราบกันว่าติดเรื่องโควิดอาจจะต้องทำงานกันผ่านช่องทางออนไลน์ ก็ลำบากเหมือนกันแต่ยังมีโปรเจคเรื่อยๆ ครับ”

เริ่มเดินเส้นทางการประกวดต่างๆ มาตั้งแต่เด็ก เรารู้ตัวว่าชอบด้านนี้ตั้งแต่ตอนไหน?

” 7 ขวบมั้งครับ (หัวเราะ) ตั้งแต่เด็กเลยเพราะพีคเรียนว่ายน้ำเพื่ออยากเตรียมร่างกาย พีคเรียนเปียโน พอ 7 ขวบได้ดูสารคดี จัสติน บีเบอร์ ทำให้พีคอยากเป็นศิลปินตั้งแต่ตอนนั้นเลยเป็นแรงบันดาลใจหลักๆ แล้วก็เป็นทางนี้มาตลอด อาจจะมีบ้างตอนเด็กๆ ที่อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เอาส้มไปแช่แข็ง สรุปกินไม่ได้ (หัวเราะ) ตอนนี้ก็มาสายนี้อย่างเดียวเลย”

กองทัพ พีค

“พีคไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่อายุ 11 ขวบก็ถือว่ายังเด็กมาก ที่พีคชินกับการออดิชั่น ชินกับการแข่งขันเพราะจากการไปเรียนที่อังกฤษนี่แหละครับ เป็นโรงเรียนเกี่ยวกับศิลปะ การแสดงโดยตรง ตอนนั้นออดิชั่นตั้งแต่เด็ก มีการแข่งขันสูงมาก พีคเป็นคนไทยคนเดียวในโรงเรียนซึ่งก็ว่ายากอยู่แล้ว ทั้งเรื่องภาษาเรื่องอะไรต่างๆ พอโตมาเราเจอความท้าทายต่างๆ ชีวิตเราก็พร้อมที่จะเจอกับมันเพราะเราเจออะไรแบบนี้มาตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว เวลาเจอปัญหาก็หายใจลึกๆ ค่อยๆ แก้ทีละปัญหาไป ต้องยอมรับว่าตอนเด็กๆ รับมือยากเหมือนกันแต่โชคดีที่มีครอบครัวซัพพอร์ต มีเพื่อนๆ ที่ดีที่นั่นที่ช่วงเราได้เยอะเลย”

เป้าหมายของพีคคืออะไร?

 “ตอนเด็กพีคอยากเป็นเหมือนจัสตินนะ แต่พอโตมาพีคได้เห็นรอยยิ้มคนอื่นแล้วพีคมีความสุข ตั้งแต่รอยยิ้มของครอบครัวเราเอง ที่รอดูผลงาน รอดูละครเรา รอยยิ้มของแฟนคลับ เป้าหมายมันก็ยังชัดเหมือนเดิมแหละครับเพียงแต่มีเพิ่มขึ้นมาว่าอยากให้คนรอบข้างเรา คนที่อยู่ข้างๆ เราเขามีความสุข มีผลงานออกมาให้ผู้ชมได้ชมแล้วยิ้มออกมาอะไรประมาณนั้นครับ”

เรื่องความโด่งดังสำหรับพีคผมก็ไม่รู้ครับว่ามันจะไปได้ถึงจุดไหนแค่พีคได้ทำในสิ่งที่พีครักแค่นี้พีคก็รู้สึกประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว ได้ตื่นมาทำงานที่เราชอบทุกวันมันก็เป็นสิ่งที่มีความสุขซึ่งทุกวันนี้เองถือว่าแฮปปี้แล้วครับ”

แต่ระหว่างทางการเข้ามาจุดนี้ก็ไม่ได้ง่าย มีช่วงเวลาที่ถอดใจบ้างไหม?

“โห ยากนะ ไม่ง่ายเลย ก็มีอุปสรรคปัญหาเยอะ จริงๆ อุปสรรคในชีวิตมันก็มีตลอดอยู่แล้ว แต่พีคก็ไม่ได้รู้สึกท้อแล้วต้องถอย เราท้อได้ครับแต่อย่าถอยทุกอย่างต้องเดินต่อ เรามาขนาดนี้แล้วจะล้มเลิกง่ายๆ ไม่ได้ ที่ผ่านมาเราเดินมาเยอะ มาไกลขนาดไหนแล้ว ถ้าไม่ไปต่อก็เสียเวลา เสียโอกาสครับ”

“เรื่องกระทบความรู้สึกส่วนมากก็เจอในห้องซ้อม เพราะเวลาซ้อมเราต้องซ้อมหนักมาก บางทีเรารู้สึกว่าทำไมเหนื่อยแบบนี้ บวกกับบางทีร่างกายเราไม่ไหว อย่างที่เกาหลีถ่ายรายการ เราป่วย ร่างกายไม่ไหว แต่ก็ต้องถ่าย ต้องเต้นต่อไป อากาศ -20 องศาใส่เสื้อตัวเดียวก็ต้องทำต่อไป เหมือนเราก็ได้ฝึกตัวเองแหละครับ ถามว่าท้อไหมก็ท้อ แต่ก็สู้ครับ ผมคิดเสมอว่าคนอื่นทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราก็เป็นคนเหมือนเขา มีชีวิต จิตใจเหมือนกันทุกคน ในเมื่อเขาผ่านมันไปได้ทำไมเราจะผ่านมันไปไม่ได้

กองทัพ พีค

บางคนอาจจะมองว่าการเป็นศิลปินมันไม่ยากลำบากอะไร พีคอยากบอกเรื่องนี้ยังไงบ้าง?

“พีคว่าในชีวิตทุกๆ อาชีพไม่มีอาชีพไหนไม่ลำบากหรอกครับ เพียงแค่คนจะเห็นเราในมุมไหนเท่านั้นเอง เราก็อยากให้ทุกคนเห็นในมุมที่เรามอบความสุขให้ทุกคนมากกว่าครับ”

ครอบครัวก็เป็นกำลังใจ และแรงผลักดันหลักในการเดินตามความฝันเลยใช่ไหม?

 “ซัพพอร์ตมากๆ เลยครับ ไม่ว่าพีคอยากทำอะไร ฝันอยากทำอะไรครอบครัวสนับสนุนหมดเลย ตอนไปเรียนอังกฤษ ตอนนั้นคุณพ่อก็ลงทุนขายรถเพื่อซัพพอร์ตพีคเลย ตลอดเวลา ไม่มีบอกว่าอยากให้ลูกเป็นอาชีพโน้นอาชีพนี้เลย พีคอยากเป็นอะไรเขาก็ให้ทำ ยิ่งคุณพ่อก็เป็นคนในวงการอยู่แล้วด้วย มีอะไรคุณพ่อก็คอยแนะนำด้วย เป็นอะไรที่อบอุ่นมากเลย อย่างกีต้าร์ที่พีคใช้ขึ้นเวทีต่างๆ พี่สาวก็รวมเงินซื้อให้ แม้ราคาไม่ได้แพงอะไรแต่เป็นคุณค่าทางจิตใจมากๆ เวลาเราเล่นเราก็จะรู้สึกว่ากีต้าร์ตัวนี้พี่ๆ น้องๆ เราซื้อให้นะ มันเทียบเป็นมูลค่าไม่ได้เลย”

ภาพที่เราจะเห็นกันบ่อย คือ “พ่อปราบ ยุทธพิชัย” ตามไปเชียร์ลูกถึงที่ตลอด?

“หลายคนอาจจะคิดว่าคุณพ่อเป็นคนเข้มๆ ขรึมๆ แต่จริงๆ พ่อเป็นคนตลกเฮฮา มีซีเรียสบ้าง แต่ในมุมที่มีเหตุผล คุณพ่อจะเป็นคนคอยซัพพอร์ต ให้คำแนะนำและสอนพีคตลอด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต และมุมมองที่บางทีพีคยังมองไม่ออก รวมทั้งคอยตักเตือนให้พีคเป็นพีคทุกวันนี้

หลายคนถามว่าเป็นลูกคนในวงการแล้วเราก็เข้าวงการตามมารู้สึกเกร็งไหม พีคไม่เกร็งครับ รู้สึกอบอุ่นมากกว่า เพราะไม่ว่าจะไปทำงานกับใคร ส่วนมากทุกคนก็เคยร่วมงานกับคุณพ่อมาก่อน เหมือนเป็นครอบครัวเลย บางทีช่างแต่งหน้าที่เคยแต่งคุณพ่อตอนวัยรุ่นก็มาแต่งให้พีคตอนนี้ (หัวเราะ)”

“คุณพ่อสอนผมว่า ทุกอาชีพมีศักดิ์ศรีหมด เพราะฉะนั้นเราต้องเคารพทุกอาชีพ ไม่ว่าเขาจะอยู่จุดไหน ตำแหน่งไหน ให้ทำความเคารพเขา”

พีค และพ่อปราบ

มาเรื่องหัวใจกันบ้าง มีสาวๆ คุยหรือยัง?

“ยังครับ ยัง อาจเพราะโฟกัสที่งานด้วย แต่ว่าตัวผมเอง ครอบครัวไม่ได้ปิดกั้นอะไรนะครับ เพียงแต่ว่าอยากจะเต็มที่กับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ก่อน ถามว่ามีคนที่เจอแล้วชอบไหม ก็มีนะครับ มันเป็นธรรมดาของทุกคนอยู่แล้ว แต่ก็นั่นแหละผมมองว่าถ้าเราทำสิ่งที่โฟกัสเต็มที่ สร้างความมั่นคงให้ตัวเองก่อน การที่จะมีใครในชีวิตสักคนก็อยากทำให้เขาสบายที่สุด”

“ที่ผ่านมาถามว่ามีคนเข้าหาเยอะไหม คือ ผมไม่รู้ว่าที่เขาเข้ามาเป็นการเข้าหายังไง (หัวเราะ) เพราะพีคเป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร จะค่อนข้าง งงๆ “

แล้วชอบสาวๆ แบบไหน?

“ชอบคนที่เหมือนแม่ผมครับ แม่เป็นคนใจดี ทัศนคติดี เข้ากับพีคได้ เข้ากับครอบครัวพีคได้ ส่วนเรื่องหน้าตาไม่ได้ติดอะไร เพราะคำว่าสวยหรือไม่สวยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับชอบหรือไม่ชอบมากกว่าครับ

 สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ บ้างไหม?

“ก่อนอื่นต้องฝากละครก่อนเลยครับ เป็นละครเรื่องแรกของพีคเลย ขอบคุณทุกคนที่ซัพพอร์ตพีคตั้งแต่พีคยังไม่กลับจากอังกฤษ พีคมาถึงขั้นนี้ได้เพราะมีพวกเขา ตั้งแต่แฟนคลับคนแรกจนถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังอยู่กับพีคตลอด ก็อยากจะตอบแทนทุกคนด้วยผลงานที่พีคตั้งใจทำ ในทุกๆ ผลงานในอนาคตก็อยากจะมอบให้แฟนๆ ครับ”

เรียกว่ามุ่งมั่น ตั้งใจ และชัดเจน กับเส้นทางความฝันของตัวเองมากๆ สำหรับหนุ่ม “กองทัพ พีค” และตอนนี้ฝีไม้ลายมือก็ออกมาเป็นที่ยอมรับของแฟนๆ ได้รับคำชมไปเต็มๆ ใครเป็นแฟนหนุ่มนักล่าฝันคนนี้ก็ส่งใจเชียร์กันรัวๆ รับรองไม่ผิดหวัง